วิธีปิดหน้าจอ Android ด้วยเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ
วิธีเพิ่มหรือลบลายนิ้วมือปลดล็อกโทรศัพท์ | อมตะดอทคอม
ในปัจจุบันมือถือใหม่ ๆ หลาย ๆ รุ่นมีระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือหรือสแกนใบหน้ากันแล้วทั้งนั้น ดังนั้นในบทความนี้ผมจะขอพูดถึง วิธีการเพิ่มลายนิ้วมือและวิธีลบลายนิ้วมือที่ใช้ในการปลดล็อกโทรศัพท์ของเรานะครับ (Samsung Galaxy A30)
เริ่มแรกให้เข้าไปที่การตั้งค่าของมือถือก่อน จากนั้นมองหาเมนู ชีวมาตรและความปลอดภัย ซึ่งจะมีคำอธิบายเพิ่มเติมเล็ก ๆ ข้างล่างว่า “ลายนิ้วมือ”
จากนั้นจะเห็นเมนู “ลายนิ้วมือ” กดเข้าไปเพื่อเพิ่มลายนิ้วมือได้เลยครับ ถ้าเคยมีลายนิ้วมืออยู่แล้ว ก็จะแสดงอักษรสีน้ำเงินดับภาพตัวอย่าง “เพิ่ม 1 ลายนิ้วมือแล้ว” ก่อนจะเพิ่มลายนิ้วมือได้ จะต้องทำการล็อกหน้าจอด้วย รูปแบบ PIN หรือ รหัสผ่านก่อน เพื่อเป็นช่องทางสำรองในกรณีที่เราปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือไม่ได้ หรือเรา restart มือถือ
จากนั้นก็ให้เริ่มวางนิ้วมือลงไปจากคำแนะนำที่ปรากฏ วางแล้วยก วางแล้วยก ทำซ้ำ ๆ จนกว่าจะสแกนครบ 100% เทคนิคคือ ขยับนิ้ววางตรงบ้าง เอียงบ้าง เพื่อให้มือถือจดจำลายนิ้วได้ทั้งหมด
เมื่อขึ้นว่า “เพิ่มลายนิ้วมือแล้ว” ก็เป็นอันว่าเสร็จสิ้นครับ ซึ่งเราสามารถเพิ่มนิ้วอื่น ๆ หรือลบลายนิ้วมือที่เราเพิ่มไปแล้วทิ้งได้
จากภาพจะเห็นว่ามีเมนู “ตรวจลายนิ้วมือที่เพิ่ม” กดปุ่มนี้จากนั้นลองวางนิ้วดูว่าใช้ได้หรือยัง ถ้ามือถือสามารถจำแนกลายนิ้วมือได้ ก็จะขึ้นดังภาพตัวอย่าง “ลายนิ้วมือ1” ถ้าลองวางนิ้วอื่นแล้วมือถือไม่รู้จักจะขึ้นว่า “ไม่ปรากฏรายการที่ตรงกัน”
วิธีลบลายนิ้วมือ แค่เพียงกดเข้าไปในรายการลายนิ้วมือและเลือกคำสั่งลบได้เลยครับ ง่าย ๆ หรือจะเปลี่ยนชื่อลายนิ้วมือตามต้องการก็ได้
วิธีแก้ปัญหาเมื่อเทคโนโลยีสแกนใบหน้า (Face Unlock) เกิดทำงานไม่ได้หรือผิดปกติ
ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับสมาร์ทโฟนแทบทุกรุ่นอย่างระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในปัจจุบันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่กำลังมาแรง ก็คือ เทคโนโลยีปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า (Face Unlock) ที่เริ่มมีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในช่วงปลายปี 2017 ที่ผ่านมา จากรุ่น Samsung Galaxy Note 8, iPhone X, Vivo V7+ รวมไปถึง Huawei Honor 9 Lite ที่พร้อมรองรับหลังการอัปเดตซอร์ฟแวร์ในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีดังกล่าวถือว่ายังไม่มีความเสถียรและความปลอดภัยมากนัก หากเทียบกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เพราะต่างก็มีข่าวออกมาเรื่อยๆ ว่าระบบสแกนใบหน้ามีปัญหาในด้านการใช้งานในที่มืดไม่ได้ หรือใช้เวลาในการปลดล็อคนานกว่าที่ควรจะเป็น ในวันนี้ เราจึงมาบอกเคล็ดลับเล็กๆ หรือวิธีแก้ไขเมื่อการสแกนใบหน้าไม่สามารถใช้ได้ในสมาร์ทโฟน (ของแอนดรอยด์)
• เมื่อทำการสแกนใบหน้า ต้องให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรมาบดบังใบหน้าของเรา (ตา, จมูก และปาก)
• แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะรองรับการใช้งานในทุกสภาวะ ไม่ว่าจะใส่แว่นหรือในสภาพแสงน้อย แต่สำหรับแว่นกันแดดที่บดบังแสงและป้องกันใบหน้า อาจทำให้ระบบไม่ทำงานได้เช่นกัน
• หากอยู่ที่แสงจ้า ตัวกล้องของสมาร์ทโฟนต้องไม่อยู่ในมุมย้อนแสง
• ให้สังเกตระยะความใกล้/ไกลของการใช้งานเมื่อต้องการปลดล็อคว่าอยู่ในระยะห่างที่พอดีหรือไม่ โดยเราแนะนำ คือ ประมาณ 1 ช่วงแขน หรือมุมที่คล้ายกับถ่ายเซลฟี่
แต่ถ้าหากยังไม่ได้ ทำอย่างไรต่อ?
วิธีที่ 1 : ให้ลบใบหน้า และเพิ่มใหม่เข้าไปอีกครั้ง ซึ่งต้องเข้าไปทำในส่วนของการตั้งค่า อย่างไรก็ตาม เมื่อเราลบใบหน้าในครั้งแรกแล้ว ให้เราลองรีสตาร์ทเครื่องหนึ่งครั้ง แล้วทำการเพิ่มใบหน้าดูอีกรอบ
วิธีที่ 2 : ตรวจสอบการอัปเดตซอร์ฟแวร์ เนื่องจากเทคโนโลยีปลดล็อคด้วยใบหน้ามักจะมาพร้อมการอัปเดตซอร์ฟแวร์ (ในสมาร์ทโฟนบางรุ่น) รวมไปถึงการแก้ไขข้อผิดพลาดหรือบัคบางส่วนเพื่อให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น เราควรลองตรวจสอบการอัปเดตอยู่บ่อยๆ
วิธีที่ 3 : บางครั้งตัวช่วยที่ดีที่สุดคือการเคลียร์ข้อมูลหรือแคชทิ้งไป โดยวิธีการทำก็ง่ายดาย เพียงให้เข้าไปที่ การตั้งค่า > แอพ > กดที่ตัวเลือก (จุด 3 จุดด้านขวาบน) จากนั้นกด แสดงแอพระบบ และเลื่อนลงมาเรื่อยๆ เพื่อหาแอพที่เกี่ยวกับปลดล็อคใบหน้า > กดที่ ที่เก็บ และกด ลบแคช ทั้งนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในแต่ละรุ่น
วิธีที่ 4 : วิธีสุดท้ายเมื่อทุกวิธีข้างบนไม่ได้ผลทั้งหมด คือ การรีเซ็ทสมาร์ทโฟนใหม่ ซึ่งเราควรทำการแบ็คอัพการตั้งค่าและข้อมูลไว้ก่อน จากนั้นให้เข้าไปที่ การตั้งค่า > การจัดการทั่วไป > รีเซ็ท และเลือก ตั้งค่าข้อมูลจากโรงงาน
จากวิธีทั้งหมดนี้ถือเป็นวิธีที่สะดวกเพื่อไม่ให้เราต้องเดินทางไปที่หน้าร้านของแบรนด์นั้นๆ นอกจากนี้ เราก็ขอแนะนำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนใช้ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อล็อคเครื่องเป็นอันดับแรก เพราะมีความปลอดภัยมากที่สุดในปัจจุบัน
วิธีปิดหน้าจอ Android ด้วยเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ
เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือกลายเป็น สินค้าล้ำค่าที่สุดชิ้นหนึ่ง เมื่อเรากำลังจะซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ ตอนนี้โทรศัพท์ส่วนใหญ่ที่ต้องการมีชื่อใหญ่ในตลาด Android ต้องนำเซ็นเซอร์ที่ช่วยให้เราปลดล็อกโทรศัพท์ได้ภายในสิบวินาทีเพื่อไปที่หน้าจอเทอร์มินัลโดยตรงหรือชำระเงินผ่านมือถือ บน Play Store และบริการอื่น ๆ อีกมากมาย
Google Pixel คือโทรศัพท์ ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยให้คุณ ท่าทางลง บนเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือเพื่อขยายแถบการแจ้งเตือนและแผงการตั้งค่าด่วน เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ทำให้เราสงสัยว่าทำไมเราไม่เคยมีมาก่อนเนื่องจากช่วยให้สามารถโต้ตอบกับอุปกรณ์ได้อีกวิธีหนึ่งนอกเหนือจากจุดประสงค์หลักเพื่อความปลอดภัย มีผู้ใช้ ztc1997ซึ่งพบอีกวิธีที่ยอดเยี่ยมในการใช้เซ็นเซอร์หลังจากที่คุณปลดล็อกโทรศัพท์แล้ว
แอพของ ztc1997 จะช่วยให้คุณ ปิดหน้าจอโทรศัพท์ของคุณ โดยแตะที่เครื่องสแกนลายนิ้วมือคุณจะมีปุ่มเปิด / ปิดเครื่องที่สองเพื่อสั่งให้โทรศัพท์เข้าสู่โหมดสลีป เป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ใช้ที่สวมปุ่มเปิด / ปิดเล็กน้อยแล้วและต้องการปลดเซ็นเซอร์นั้นเพื่อปิดหน้าจอ
สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ คุณไม่จำเป็นต้องเข้าถึง สำหรับฟังก์ชันนี้ด้วยสิทธิ์ ROOT แต่สิ่งเดียวที่คุณต้องมีคือการติดตั้งที่ใช้งานอยู่จากแหล่งที่ไม่รู้จักจากความปลอดภัยบนโทรศัพท์ Android ของคุณ
แอพนี้แหละ แปลงเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือของคุณ ในการจุดระเบิดยังไม่มีใน Google Play Store ดังนั้นคุณจะต้องติดตั้งจาก APK ที่เราจะให้จากที่นี่ โปรดจำไว้ว่าคุณสามารถทำตามไฟล์ การพัฒนาแอพนี้จาก XDA.
• เมื่อคุณแคสต์ครั้งแรก ลายนิ้วมือเพื่อเข้าสู่โหมดสลีปคุณจะต้องเปิดใช้งานแอปในฐานะผู้ดูแลอุปกรณ์ สิ่งนี้จำเป็นเพื่อให้สามารถล็อกหน้าจอของเทอร์มินัลของคุณได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ ROOT ดังนั้นอย่าลืมกด "เปิดใช้งาน"
• ตอนนี้คุณจะต้องเปิดใช้งานจากหน้าจอหลักกล่อง«เปิดใช้ลายนิ้วมือเพื่อล็อค»เพื่อเริ่มบริการหลัก
• มีตัวเลือกที่น่าสนใจมากเพื่อไม่ให้หน้าจอดับโดยบังเอิญเมื่อคุณสัมผัสเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือและโทรศัพท์ล็อค หากคุณเปิดใช้งานตัวเลือก«ลายนิ้วมือที่ลงทะเบียนตอบกลับเท่านั้น«, แอพจะล็อกหน้าจอเทอร์มินัลก็ต่อเมื่อคุณวางปลายนิ้วใดนิ้วหนึ่งราวกับว่าคุณกำลังจะปลดล็อกเทอร์มินัล
ขอแนะนำให้ใช้ตัวเลือก«บริการเบื้องหน้า«เนื่องจากจะเป็นการเปิดใช้งานการแจ้งเตือนไปยังแถบการแจ้งเตือนและจะแจ้งให้คุณทราบว่ามีการใช้งานบริการอยู่หรือไม่ ด้วยวิธีนี้คุณจะมั่นใจได้ว่าบริการจะทำงานอยู่เสมอเนื่องจากระบบการจัดการหน่วยความจำ Android สามารถนำไปสู่การปิดได้
หากคุณเป็นผู้ใช้ ROOT มีการตั้งค่าเพิ่มเติมที่คุณอาจต้องการใช้งาน เนื่องจากคุณสมบัติความปลอดภัยของ Android ทุกครั้งที่แอปล็อกหน้าจอเทอร์มินัลของคุณเมื่อใช้สิทธิ์ผู้ดูแลอุปกรณ์คุณจะต้อง ป้อน PIN ครั้งต่อไปที่คุณเปิดโทรศัพท์ ซึ่งหมายความว่าเมื่อคุณตั้งโทรศัพท์เข้าสู่โหมดสลีปด้วยเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือคุณจะต้องป้อน PIN ก่อนจึงจะสามารถปลดล็อกได้อีกครั้ง
เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนั้น Fingerprint to Sleep สามารถทำได้ จำลองการกดปุ่มเปิด / ปิด เมื่อใช้การเข้าถึง ROOT หากต้องการเปิดใช้งานคุณลักษณะนี้ให้คลิกที่ช่องถัดจากตัวเลือก "วิธีแก้ปัญหา"
ความจริงที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากแอพนี้คือe เสร็จจาก ROOTเนื่องจากทุกครั้งที่คุณปิดหน้าจอด้วยเซ็นเซอร์คุณจะต้องป้อน PIN ความต้องการของผู้ใช้ในการใช้ประโยชน์นั้นขึ้นอยู่กับมันแล้ว
Write a Comment