6 สาเหตุที่ทำให้ iPhone เสีย ใช้งานได้ไม่สมบูรณ์ถึงขั้นเจ๊งเลยทีเดียว

คงไม่มีใครอยากให้ iPhone สุดที่รักเสียหายหรือใช้งานไม่ได้ แต่ในบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นผู้ใช้ iPhone ควรทำความเข้าใจถึง 6 อันดับสิ่งที่ส่งผลให้ iPhone มีโอกาสเสียหายจนใช้งานไม่ได้ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการป้องกันและหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ดังกล่าว

iPhone ก็เปรียบเหมือนร่างกายของมนุษย์ที่ต้องการพักผ่อนชั่วครู่เพื่อทำงานต่อ การเปิดใช้ iPhone ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้บางครั้ง Hardware และแบตเตอรี่อาจทำงานหนัก รวมไปถึงหน่วยความจำที่ต้องประมวลผลตลอดเวลาทำให้ iPhone อาจเกิดอาการร้อนหรือช็อตจนไม่สามารถทำงานต่อได้ แนะนำให้ปิด iPhone ไว้สัก 10-20 นาที เพื่อหยุดพักการทำงานชั่วคราวจะช่วยให้อายุการใช้งานยืนยาวขึ้น

บางคนชาร์ต iPhone ข้ามคืน ถึงแม้ว่าคุณสมบัติของแบตเตอรี่รุ่นใหม่จะสามารถตัดไฟเองเมื่อชาร์ตเต็มได้ แต่อย่าลืมว่าสายชาร์ต และเต้าเสียบยังมีไฟเลี้ยงอยู่ หากมีไฟกระชากในบ้าน หรือทนความร้อนไม่ไหวอาจส่งผลเสียต่อ iPhone ได้ แนะนำให้ชาร์ตให้เต็ม 100% แล้วถอดสายชาร์ตออกเมื่อเสร็จ

อุณหภูมิสูง ไม่ว่าจะเป็นการลืม iPhone ไว้ในรถที่ตากแดด การชาร์ตแบตเตอรี่ไปด้วยเล่นไปด้วย หรือชาร์ตแบตเตอรี่ตอน 0% สิ่งเหล่านี้ทำให้อุปกรณ์มีความร้อนสูงส่งผลโดยตรงต่อ Hardware ด้านใน ทำให้มีโอกาสลัดวงจรหรือแบตเตอรี่ร้อนจนไม่สามารถใช้งานต่อได้

เราเคยเห็นข่าวมากมายเกี่ยวกับไฟไหม้สายชาร์ต ไฟช็อตสายชาร์ต ส่งผลให้ iPhone เสียหายและมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับผู้ใช้งาน iPhone ด้วย

สายชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานนอกจากจะทำให้ชาร์จไฟไม่เข้าแล้วผลที่ตามมาคือ กระแสไฟที่จ่ายเข้า iPhone นั้นไม่นิ่ง ส่งให้ผลต่อระบบการจ่ายไฟ (PMU) ของ iPhone ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้ไอซีที่ควบคุมระบบไฟเสียได้ อาการที่เจอบ่อยๆ ก็คือ ชาร์จไฟไม่เข้า, แบตยิ่งชาร์จยิ่งลดหรืสลับด้านของสาย Lightning ไม่ได้ จนที่สุดเครื่องจะเปิดไม่ติดนั่นเอง

ทางที่ดีที่สุด เราควรเลือกใช้สายชาร์ตที่มีมาตรฐานรับรอง อาจเป็นสายของแท้จาก Apple หรือไม่ผู้ให้บริการรายอื่นที่สัญลักษณ์ MFI (Made for iPhone) ติดอยู่ข้างกล่อง จะช่วยให้การชาร์ตปลอดภัยมากขึ้น

เหตุผลคล้ายกับอุณหภูมิสูง แต่ความชื้นจะแก้ไขได้ยากกว่าเพราะเมื่อน้ำแทรกซึมเข้าไปอยู่ใน Hardware จะเป็นตัวนำไฟฟ้าอย่างดี

ในเหตุการณ์บางอย่างที่ทุกคนมองข้าม เช่น การนำ iPhone ไปเปิดเพลงขณะอาบน้ำในห้องน้ำ เมื่อเราอาบน้ำอุ่น ละอองหรือไอน้ำอาจก่อตัวขึ้นมาแล้วไปเกาะตามส่วนต่างๆ ของ iPhone เช่น ช่องหูฟัง ช่องลำโพง ส่งผลให้อุปกรณ์มีโอกาสช็อตและลัดวงจรได้ง่าย และที่สำคัญไม่ควรนำไปแช่ถังข้าวสารเพราะยิ่งจะทำให้เกิดผลร้ายขึ้นไปอีก (แนะนำว่าใช้ถุงดูดความชื้นจะดีกว่า)

iPhone ตกพื้นอย่างรุนแรง…. ยากที่จะกลับมาใช้งานได้ปกติ และเหตุผลนี้เป็นเหตุผล Classic ที่ทำให้เราต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่หรือต้องซ่อมกันค่อนข้างเยอะ หาเคสกันกระแทกแบบดีๆ มาป้องกันหลักพัน แลกกับความเสียงที่ต้องเสียหลักหมื่น ผมว่าก็คุ้มค่าต่อการลงทุนนะครับ

Write a Comment