10 อันดับมือถือกล้องเทพจาก DxOMark อัปเดตล่าสุด กันยายน 2021 มีรุ่นไหนจากแบรนด์ใดบ้าง มาดูกัน! ::

DxOMark นับว่าเป็นหนึ่งในผู้ทดสอบด้านกล้อง และเซ็นเซอร์ชั้นนำ ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ผู้ผลิตมือถือหลายแบรนด์มักจะนำคะแนน DxOMark มาใช้อ้างอิงเพื่อบ่งบอกถึงประสิทธิภาพของกล้องบนมือถือรุ่นนั้นๆ ให้เข้าใจแบบง่ายๆ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ทาง DxOMark ก็เพิ่งจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการทดสอบ และปรับเกณฑ์การประเมินใหม่ ส่งผลให้การจัดอันดับมือถือกล้องสวยมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย และนี่คือ 10 อันดับมือถือกล้องดีจาก DxOMark อัปเดตล่าสุดเดือนกันยายนปี 2021 ครับ

ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดก็ติดโผด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยผลคะแนนรวม 128 คะแนน โดยทาง DxOMark ชมว่า ไอโฟนรุ่นใหม่นี้มีการพัฒนาขึ้นมาจาก iPhone 11 Pro พอสมควร ด้วยระบบโฟกัสที่ฉับไว และแท่นยำในทุกสภาพแสง, การพรีวิวภาพก่อนถ่ายที่ใกล้เคียงกับภาพที่บันทึกออกมา และการวัดแสงที่ทำได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นด้านการถ่ายวิดีโอที่คุมแสงได้ดี รวมถึง Dynamic Range ที่กว้าง และ Contrast ที่จัดจ้าน สามารถโฟกัสติดตามติด Subject ได้โดยไม่หลุดโฟกัส รวมทั้งยังมาพร้อมกับระบบกันสั่นที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม

สำหรับจุดที่ต้องพิจารณาของ iPhone 12 Pro ก็คือ การจัดการ Noise ในสภาวะแสงน้อยที่ยังทำได้ไม่ดีนัก, Dynamic Range ด้านการถ่ายภาพนิ่งที่ค่อนข้างแคบ รวมถึงการวัด White Balance ขณะถ่ายวิดีโอที่ผิดพลาดในบางซีน

iPhone 12 Pro Max ไอโฟนรุ่นท็อปสุดในปีนี้สามารถทำคะแนนรวมได้ทั้งหมด 130 คะแนน โดยมีจุดเด่นด้านการวัดแสงที่แม่นยำ โดยเฉพาะกรถ่ายภาพ Portrait ไปจนถึงการถ่ายภาพในสภาวะแสงร้อย สามารถถ่ายทอดสีสันได้อย่างดีเยี่ยมโดยเฉพาะการถ่ายภาพแบบ Indoor และมีระบบโฟกัสที่แม่นยำ และฉับไว รวมทั้งยังสามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยการใช้ประโยชน์จากกล้อง LiDAR Scanner แต่จุดที่ต้องพิจารณาของ iPhone 12 Pro Max ตามที่ DxOMark พบเจอก็คือ ภาพถ่ายที่ติดโทนอุ่นไปสักเล็กน้อยม Dynamic Range ของภาพถ่ายที่ค่อนข้างแคบ

เข้าสู่ท็อป 5 กันแล้ว สำหรับ Vivo X50 Pro+ มาพร้อมกับจุดเด่นด้าน Dynamic Rage ที่กว้างเป็นพิเศษ พร้อมการวัดแสงที่แม่นยำทั้งการถ่ายภาพ Indoor ไปจนถึงการถา่ยภาพในสภาวะแสงน้อย รวมถึงการเก็บรายละเอียด และการจัดการ Noise ที่ทำได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ Vivo X50 Pro+ ยังได้คำชมในเรื่องของการซูม ที่สามารถเก็บรายละเอียดการถ่ายภาพในระยะไกลได้เป็นอย่างดี สามารถซูมภาพที่อยู่ไกลจากผู้ถ่ายได้อย่างง่ายดาย พร้อมการถ่ายวิดีโอที่ถ่ายทอดสีสันได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กับการถ่ายภาพนิ่ง

ในส่วนของจุดที่ต้องพิจารณา ทาง DxOMark พบว่า Vivo X50 Pro+ จะมีความเร็วในการโฟกัสที่ค่อนข้างช้าไปสักหน่อยเมื่อต้องถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย หรือการถ่ายภาพในซีน HDR แต่ก็ยังสามารถโฟกัสเข้าเป้าได้อย่างแม่นยำ

OPPO Find X3 Pro เป็นเรือธงที่ขึ้นชื่อเรื่องการถ่ายรูปอีกรุ่นหนึ่ง และเข้ามาติดอันดับ Top 10 ได้ด้วยคะแนน 131 คะแนน ตีคู่มากับ vivo X50 Pro+ โดยจุดแข็งอยู่ที่รูปถ่ายที่มีสีสันสดใส รายละเอียดครบถ้วน และมีแสงเงาที่แม่นยำลงตัวในเกือบทุกสภาพแสง ส่วนเอฟเฟ็กต์ bokeh สามารถแยกตัวบุคคลและฉากหลังออกได้อย่างแนบเนียน สำหรับการถ่ายวิดีโอ autofocus ยังคงทำงานได้อย่างรวดเร็ว และติดตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบกันสั่นที่ดี แม้จะมีภาพวุ้นบ้าง แต่ก็ถือว่ายอดเยี่ยมในภาพรวม

HUAWEI P40 Pro ถือว่าเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่สามารถกวดคะแนนด้านการถ่ายภาพนิ่งไปได้สูงถึง 132 คะแนน โดยทาง DxOMark เปิดเผยว่า สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวมีจุดเด่นด้านการวัดแสงที่แม่นยำแม้จะเป็นการถ่ายภาพในตอนกลางคืน, Dynamic Range ที่กว้างเป็นพิเศษ สามารถเก็บรายละเอียดในส่วนของไฮไลท์ และ Shadow ได้อย่างครบถ้วน รวมทั้งยังสามารถจัดการ Noise ได้ดีกว่ามือถือรุ่นอื่นๆ ส่วนด้านการถ่ายภาพ Portrait ก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ สามารถแยกตัวแบบออกจากฉากหลังได้อย่างแม่นยำ และจำลองเอฟเฟกต์ชัดตื้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ

จุดที่ต้องพิจารณาของ HUAWEI P40 Pro ตามการทดสอบของ DxOMark ก็คือ การถ่ายทอดสีสันที่ไม่ถูกต้องในบางซีน รวมถึงการวัด White Balance ที่ผิดพลาด ซึ่งมักจะเปิดขึ้นขณะถ่ายภาพในสภาวะแสงที่มีความแตกต่างของแสงมากจนเกินไป ทำให้รายละเอียดของภาพบางส่วนขาดหายตามไปด้วย

สมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษของ Xiaomi ที่ทาง DxOMark เอ่ยปากชมว่า สามารถทำผลงานด้านการถ่ายภาพนิ่งได้ดีในทุกการทดสอบ ไม่ว่าจะเป็น การวัดแสง, การถ่ายทอดสีสัน, การวัด White Balance, การเก็บรายละเอียด ไปจนถึงการเก็บค่า Dynamic Range ที่กว้าง ทำให้สามารถมองเห็นรายละเอียดที่ซ่อยอยู่ตามส่วนที่สว่าง และที่มืดได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะเป็นการถ่ายภาพที่มีสภาพแสงค่อนข้างท้าทาย

ด้านการซูมภาพ ถือว่าทำได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากมาพร้อมกับระยะซูมที่ไกลถึง 120 มม. ซึ่งนับว่าไกลกว่าเรือธงคู่แข่งหลายต่อหลายรุ่น นอกจากนี้ Mi 10 Ultra ยังมีจุดเด่นด้านการถ่ายวิดีโอที่ค่อนข้างนิ่ง เก็บรายละเอียดได้ดีแม้จะเป็นการถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อยก็ตาม

สมาร์ทโฟนน้องใหม่ในวงการที่ไม่ทันไรก็ก้าวขึ้นมาอยู่ Top 10 ของ DxOMark ด้วยคะแนนรวม 133 คะแนน สูงกว่าตัวเต็งอย่าง OPPO Find X3 Pro และ vivo X50 Pro+ ถึง 2 คะแนน โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ระบบ Autofocus, การควบคุม noise และการแสดงพรีวิวที่ใกล้เคียงรูปถ่ายจริงมาก นอกจากนี้ยังมีการวัดแสงและสีที่แม่นยำในเกือบทุกสภาพแสง ขณะเดียวกัน การถ่ายวิดีโอก็ทำได้ดี โดยสามารถถ่ายวิดีโอแบบ 4K โดยมีความสมดุลระหว่างการชดเชยการสั่น, texture และ noise แต่การถ่ายวิดีโอ 4K@60fps ยังได้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยน่าประทับใจในสภาพที่มีแสงน้อย

HUAWEI Mate40 Pro มือถือที่พัฒนากล้องหลังร่วมกับ Leica ที่สามารถทำคะแนนด้านการถ่ายภาพนิ่งได้สูงสุดถึง 136 คะแนน โดย HAUWEI Mate40 Pro จะมีจุดเด่นด้าน Dynamic Range ที่กว้างในทุกสภาพแสงแม้ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย สามารถเก็บรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ในส่วนของเงามืดได้ดีกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ รวมทั้งยังมีจุดเด่นด้านการเก็บรายละเอียด และการจัดการ Noise อีกทั้ง ยังสามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างเป็นธรรมชาติคล้ายกับการถ่ายภาพด้วยกล้องระดับโปร

รองแชมป์ของ DxOMark ณ ตอนนี้ตกเป็นของ HUAWEI Mate40 Pro+ ที่ยกชุดกล้องมาจากรุ่น Mate40 Pro แต่มีการเพิ่มคุณสมบัติกันป้องกันภาพสั่นไหวให้กับกล้องตัวหลักเลนส์ Wide ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพด้านการเก็บรายละเอียดของตัวกล้อง ไปจนถึงการจัดการ Noise ที่ทำได้ดีกว่ารุ่น Pro นอกจากนี้ HUAWEI Mate40 Pro+ ยังสามารถทำคะแนนในหลายๆ กลุ่มการทดสอบของ DxOMark ได้อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับเรือธงรุ่นอื่นๆ

Xiaomi Mi 11 Ultra สมาร์ทโฟนระดับสุดยอดเรือธงจาก Xiaomi ที่พกพาความโดดเด่นมาพร้อมกับเซ็นเซอร์กล้องถ่ายภาพตัวหลักใหญ่ถึง 1/1.12 นิ้ว พร้อมเลนส์การถ่ายภาพที่ครบครัน โดย DxOMark ให้ความเห็นว่า Mi 11 Ultra เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความยอดเยี่ยมด้านการเก็บรายละเอียด และการจัดการ Noise, ระบบโฟกัสภาพที่รวดเร็ว และแม่นยำทั้งการถ่ายภาพนิ่ง รวมถึงวิดีโอ, Dynamic Rannge ที่กว้าง และการวัดแสงที่แม่นยำทั้งกลางวัน และกลางคืน ไปจนถึงการถ่ายทอดสีสันได้อย่างเป็นธรรมชาติ

หลังจากที่ปล่อยให้ Xiaomi Mi 11 Ultra ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งไปสักพัก HUAWEI P50 Pro ก็กลับมาทวงบัลลังก์คืนด้วยคะแนนรวม 144 คะแนน เฉือนชนะไปเพียง 1 คะแนนเท่านั้น โดยสามารถมอบรูปถ่ายที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมในทุกสภาวะ และมีผลทดสอบดีที่สุดในทุกประเภท ยกเว้นในเรื่องพรีวิว ซึ่งไม่ค่อยตรงกับรูปถ่ายที่ออกมาเท่าไรนัก โดยเฉพาะในสภาวะแสงที่มีค่าคอนทราสต์สูง

นอกจากเรื่องการถ่ายรูปทั่วไป HUAWEI P50 Pro ยังทำลายสถิติคะแนนด้านการซูม โดยมีรายละเอียดที่คมชัดกว่า Xiaomi Mi 11 Ultra เล็กน้อย แต่ที่น่าประทับใจที่สุดคือระบบ Autofocus

สำหรับการถ่ายวิดีโอนั้น HUAWEI P50 Pro ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกับภาพนิ่ง แต่ยังมี artifacts และตำหนิต่างๆ ให้เห็นอยู่บ้างประปราย ด้วยความยอดเยี่ยมของทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ ทำให้ HUAWEI P50 Pro กลับมาทวงแชมป์ได้สำเร็จครับ

Write a Comment